หงส์แดง 8 ตุลาคม 2015 จุดเริ่มต้นสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

หงส์แดง วันนี้เมื่อ 5 ปี ก่อน แฟนบอลเดอะค็อปทั่วโลกต่างมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งหลังจากลิเวอร์พูล ดึงเยอร์เก้น คล็อปป์ อดีตกุนซือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แทนที่เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ซึ่งถูกปลดออกไป แน่นอนว่าการมาของคล็อปป์เป็นเหมือนดั่งความหวัง เพราะในตอนนั้นยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ไซต์ร้างแชมป์รายใหญ่มานาน ได้แก่ ถ้วยใบใหญ่ยุโรป 1 ทศวรรษ แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ทศวรรษครึ่ง ซึ่งถ้วยใบหลังนี้แฟนบอลลิเวอร์พูลบางคนก็เลิกคาดหวังไปแล้ว สำหรับการเข้ามาของคล็อปป์ปีแรก เขาจำใจต้องใช้นักเตะชุดเดิมจากยุคของร็อดเจอร์ส แต่ก็สามารถนำทีมเข้าชิงลีกคัพ กับยูโรป้าลีก แต่จบลงด้วยรองแชมป์ทั้งสองถ้วย ขณะที่ในลีกจบอันดับ 8 ของตาราง

ปี 2016 เยอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมจบอันดับ 4 ได้กลับไปเล่นยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง ต่อเนื่องปี 2017 คล็อปป์ได้ให้กำเนิดสามประสาน มาเน่-เฟอร์มิโน่-ซาลาห์ และสามารถพาลิเวอร์พูลเข้าชิงได้ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ10ปี แต่ได้เพียงรองแชมป์

ปี2018 ทีมของคล็อปป์ บินทยานสูงขึ้นกว่าเดิม จากการจบอันดับสองของตารางพรีเมียร์ลีกด้วยคะแนนที่สูงถึง 97 แต้ม ส่วนยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกสามารถเข้าชิงได้เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน ก่อนจะเอาชนะสปอร์ 2-0 คว้าแชมป์เจ้ายุโรปสมัยที่ 6 ซึ่งนับเป็นแชมป์แรกของคล็อปป์กับลิเวอร์พูล

ขณะที่ปี 2019 คล็อปป์ ได้เสกแชมป์ให้แก่ลิเวอร์พูลเหมือนหล่อถ้วยเอง ไล่ตั้งแต่ ยูฟ่าซุปเปอร์คัพ ฟีฟ่าคลับเวิดด์คัพ และแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่แฟนเดอะค็อปรอคอยมากว่า 3 ทศวรรษ

5 ปีที่ผ่านมานี้ คล็อปป์ได้เสกแชมป์ เสกความสุขแก่แฟนๆ กับแชมป์ต่างๆ ที่รอคอยมานาน จากนี้ไปเชื่อว่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างตำนานของคล็อปป์กับลิเวอร์พูล ว่าเขาจะนำความสำเร็จอะไรมามาสู่ทีม อีกบ้าง ซึ่งหากวันใดที่เขาต้องอำลาทีมไปเชื่อว่าวันนั้นจะเป็นอีกวันที่แฟนเดอะค็อปเสียดายมากที่สุด กับผู้จัดการทีมที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างกับทีมจนหมดสิ้น

คุณสามารถหาข้อมูลฟุตบอลและข่าวสารเพิ่มเติมได้จาก ข่าวฟุตบอล รวมถึงบทควาฟุตบอลที่น่าสนใจ