ลีดส์ ยูไนเต็ด ยักษ์หลับที่ตื่นขึ้นอีกครั้ง

ลีดส์ ยูไนเต็ด ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษนั้นมีสโมสรมากมายที่สามารถคว้าแชมป์ลีกหรือเวียนขึ้นไปสู่หัวตารางคะแนนขึ้นชื่อว่าทีมบิ๊ก ซึ่งทีมดังจากยอร์คเชียนั่นก็คือสโมสรลีดส์ ยูไนเต็ดหรือยูงทองนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งในทีมที่เฟื่องฟูและประกาศศักดาสถาปนาตนเองเป็นบิ๊กทีมในช่วงปลายยุค 90 ถึงยุค 2000 แต่ทว่าเรื่องของฟุตบอลนั้นมันไม่มีอะไรแน่นอนเพราะลีดส์ ยูไนเต็ดใช้เวลาไม่ถึง 10 ปี ล่วงไปสู่เดอะแชมป์เปียนชิพและเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในแชมป์เปียนชิพมายาวนานกว่า 16 ปี

ลีดส์ ยูไนเต็ด ยักษ์หลับที่ตื่นขึ้น ไปสู่เดอะแชมป์เปียนชิพ

               หากจะพูดถึงยุคเฟื่องฟูของลีดส์ ยูไนเต็ด คงต้องย้อนกลับไปถึงช่วงยุค 90 เนื่องจากในยุคนั้น สามารถคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 ในปี 1990-1991 และสามารถคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ในปี 1991-1992 ซึ่งเป็นทีมสุดท้ายก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีกอังกฤษในปี 1992-1993 และอยู่ในช่วงที่รุ่งเรืองอีกครั้งในช่วงต้นยุค 2000 ภายใต้การนำทัพของ โอเรียลี่ ที่เน้นนักเตะพลังหนุ่ม

ดันเด็กในอคาเดมี่ของสโมสรขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ทำให้ ในตอนนั้นเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอลยุโรป และคว้าอันดับที่ 3 ของลีกมาครอง ซึ่งต้องยอมรับว่าตอนนั้นมีฐานแฟนบอลที่เยอะขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฐานแฟนบอลชาวไทยที่มีเยอะไม่แพ้แฟนบอลแมนเชสเตอร์ หรือแฟนบอลลิเวอร์พูล

               แต่แล้วพายุลูกใหญ่กำลังคลืบคลานมาสู่สโมสรลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อ ปีเตอร์ ริดเดล ประธานสโมสรของณ เวลานั้น มองว่าศักยภาพของทีม ณ ตอนนั้นไม่สามารถเบียดกับทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรป และยักษ์ใหญ่ของเกาะอังกฤษอย่างแมนเชสเตอร์และอาร์เซน่อลได้ จึงตัดสินใจกู้เงินเพื่อมาใช้จ่ายซื้อตัวนักเตะซุปเปอร์สตาร์มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำฝันของ ปีเตอร์ ริดเดล

และแฟนบอลให้เป็นจริงได้ เนื่องจากพวกเขาตกรอบแรกในฟุตบอลยุโรป จบที่ 4 และที่ 5 ตามลำดับ ซึ่งในตอนนั้นอันดับที่ 4 ไม่สามารถไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้ ทำให้รายได้ของสโมสรลดลงจนต้องขายนักเตะออกเพื่อชำระหนี้ จากนั้น ก็ตกชั้นในที่สุดเมื่อปี 2004

               แม้ว่าจะตกต่ำมานานมาก แต่ทว่า เมื่อมีช่วงขาลงก็ต้องมีช่วงขาขึ้น เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทางสโมสรลีดส์ ไนเต็ด สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันแชมป์เปี้ยนชิพได้สำเร็จ ทำให้ได้เลื่อนชั้นกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งหนึ่ง ครั้งแรกในรอบ 16 ปีของสโมสร ซึ่งการแข่งขันพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า จะทำผลงานได้ดีแค่ไหนนั้น ก็คงต้องติดตามกันต่อไป ลองเข้าไปติดตาม ข่าวฟุตบอล เพิ่มเติมได้ และมีบทความที่น่าใจให้เลือกชมที่ข่าวฟุตบอลทั่วไป